16 Feb พิธีรดน้ำสังข์คืออะไร ทำไมการจัดงานแต่งแบบไทยต้องมี
เมื่อเข้าสู่เดือนแห่งความรัก นอกจากบรรยากาศของคนรอบข้างหรือสถานที่ต่าง ๆ จะเต็มไปด้วยความรู้สึกอบอวนของความรู้สึกดี ๆ แล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญจะพบได้มากที่สุดคงไม่พ้นเรื่องของการแต่งงาน เพราะแน่นอนว่าใคร ๆ ต่างก็อยากได้ความโรแมนติกและฤกษ์งามยามดีจากเดือนที่ขึ้นชื่อว่าหวานที่สุดอยู่แล้ว การจัดงานในแบบต่าง ๆ จึงถูกจัดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะการจัดงานแต่งแบบไทย ที่มีขั้นตอนพิธีหลายอย่าง และอีกหนึ่งจุดเด่นอย่างเรื่องของการรดน้ำสังข์ก็ด้วยเช่นกัน
การจัดงานแต่งในพิธีแต่ละแบบแต่ละความเชื่อก็จะมีความเป็นเอกลักษณ์และจุดเด่นที่ไม่เหมือนกัน บ่าวสาวชาวพุทธก็นิยมในการจัดงานแต่งแบบไทยตามที่ได้ทำสืบทอดต่อกันมา เชื่อว่าหลายท่านที่เคยได้มีโอกาสไปร่วมงานอันเป็นมงคลนี้ คงจะสังเกตได้ว่าจะต้องมีขั้นตอนของพิธีรดน้ำสังข์รวมอยู่ด้วยเสมอ แล้วรู้กันไหมว่าพิธีรดน้ำสังข์แท้จริงแล้วคืออะไร? ทำไมจะต้องมี? พิธีรดน้ำสังข์นั้นก็คือการนำน้ำที่ผ่านการเจริญพุทธมนต์จากพระสงฆ์แล้วมารดอวยพรให้แก่บ่าวสาว ซึ่งเราเรียกน้ำนั้นว่า น้ำพุทธมนต์ จึงทำให้ขั้นตอนการรดน้ำอันเป็นมงคลนี้สามารถเรียกได้สองแบบ คือ พิธีหลั่งน้ำพุทธมนต์ หรือ พิธีรดน้ำสังข์ อย่างที่เราคุ้นหูและเรียกกันอย่างคุ้นชินเรื่อยมา
และแน่นอนว่าอุปกรณ์หรือภาชนะที่นำมาใส่น้ำเพื่อเป็นตัวกลางในการรดน้ำสังข์ในการจัดงานแบบไทยนั่นก็คือ หอยสังข์ ที่มีสีขาว ดูแล้วมีความสวยงาม ที่ต้องเป็นหอยสังข์เพราะตามโบราณจะเชื่อกันว่ามีความเป็นมงคลยิ่ง เนื่องจากสังข์เป็นหนึ่งในอาวุธของพระนารายณ์ ผู้ซึ่งเป็นเทพที่ได้รับความเคารพนับถือของพราหมณ์ ใช่แล้วการใช้สังข์เป็นอิทธิพลที่ได้รับมาจากศาสนาพราหมณ์นั่นเอง และที่ต้องใช้น้ำเพราะน้ำสื่อสัญลักษณ์ของความเย็น เหมือนเป็นการอวยพรให้คู่บ่าวสาวอยู่ด้วยกันอย่างใจเย็น มีเหตุมีผลต่อกัน ให้มีแต่ความร่มเย็นในชีวิตคู่ เป็นปึกแผ่นเดียวกันเฉกเช่นน้ำ และให้มีความเจริญรุ่งเรืองส่งเสริมกันในทางที่ดี
อีกหนึ่งอย่างของขั้นตอนการรดน้ำสังข์ของการจัดงานแต่งแบบไทย คือ จะให้ผู้ที่มีอายุมากกว่าบ่าวสาวเป็นผู้รดน้ำสังข์และอวยพรเพื่อเป็นสิริมงคล เนื่องจากว่าเป็นผู้ใหญ่กว่า แต่สมัยนี้หลายงานก็อนุญาตให้พี่น้อง หรือเพื่อนพ้องที่สนิทรดเพื่ออวยพรได้ด้วยเหมือนกัน อย่างไรก็ตามผู้ที่เริ่มรดเป็นคนแรกก็คือผู้ที่สวมมงคลแฝดให้กับบ่าวสาว ซึ่งอาจจะเป็นพ่อแม่ฝ่ายเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวก็ได้ ตามแต่จะตกลงกัน หรืออาจเป็นผู้ที่มีอายุกว่านั้น เช่น ปู่ ย่า ตา ยาย ก็ได้
